แนวทางพิจารณาเลือกใช้งานรอกไฟฟ้า AC และ DC

แนวทางพิจารณาเลือกใช้งานรอกไฟฟ้า AC และ DC

แนวทางพิจารณาเลือกใช้งานรอกไฟฟ้า AC และ DC  รอกไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมากเกินที่มนุษย์ทั่วไปจะยกและเคลื่อนย้ายขึ้นลงในระยะที่สูงหรือในระยะไกลได้ รอกไฟฟ้าเป็นเครื่องมือทุ่นแรง ในการยก หรือ ลาก วัตถุสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นการทุ่นแรงงานคนหรือยกลากสิ่งของที่มีน้ำหนักมากที่คนไม่สามารถยกได้

รอกไฟฟ้านั้นมีความสะดวกในการใช้งาน ติดตั้งได้ง่าย เคลื่อนย้ายได้ง่าย ทำให้รอกไฟฟ้าเป็นที่นิยมนำมาใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น  รอกไฟฟ้ามีทั้งแบบรอกไฟฟ้ากระแสสลับ และ รอกไฟฟ้ากระแสตรง  วันนี้เราจะพามารู้จักรอกไฟฟ้า AC และ DC ให้มากขึ้น

1.รอกไฟฟ้าไฟกระแสสลับ หรือ รอกไฟฟ้า AC มีทั้งแบบใช้ไฟ 220 โวลต์ที่เป็นไฟบ้านทั่วไป และ 380 โวลต์ 3เฟส ที่เป็นไฟโรงงาน  เป็นเครื่องมือทุ่นแรงที่ใช้งานได้เอนกประสงค์ อย่าง เช่น งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม งานแปรรูปอาหารทะเล แพปลา อู่ซ่อมรยนต์ ฯลฯ เป็นต้น  เป็นลักษณะที่มีการใช้งานหนักทั้งวัน ยกวางตลอดทั้งวัน  รอกไฟฟ้า AC  มีขนาดที่ใหญ่กว่ารอกไฟฟ้ากระแสตรง และมีฟังก์ชั่นให้เลือกมากกว่ารอกไฟฟ้ากระแสตรง สามารถเลือกทิศทางการดึงได้ 2ทิศ 4ทิศ หรือ 6ทิศ  ทำให้มีราคาที่แพงกว่ารอกไฟฟ้ากระแสตรงมาก

2.รอกไฟฟ้าไฟกระแสตรง หรือ รอกไฟฟ้า DC จะใช้ไฟจากแบตเตอร์รี่รถยนต์  เพราะถูกออกแบบมาไว้ใช้กับรถยนต์และใช้กับรถออฟโรดที่ดึงรถตกหล่ม หรือ รอกไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ออกแบบมาใช้กับรถ ATV  หรือ ใช้กับเรือ มีทั้งแบบ ใช้ไฟ 12โวลต์ และ 24โวลต์   การทำงานและการติดตั้งจะง่ายกว่า รอกไฟฟ้า AC มาก ทำให้รอกไฟฟ้า DC มีราคาถูกกว่า ทั้งตัวเครื่องและค่าติดตั้ง ด้วยเหตุนี้จึงมี เริ่มมีคนนำรอกไฟฟ้า DC มาประยุกต์ใช้งาน ยกหรือลากที่ไม่ได้ใช้งานถี่ตลอดทั้งวัน เหมือนงานในโรงงาน

รอกไฟฟ้าทั้งแบบ AC และ DC  มีสิ่งที่ต้องพิจารณาเลือกเหมือนกัน คือ

1.น้ำหนักยกของรอกไฟฟ้าหรือแรงดึง พิจารณาว่าสิ่งของที่จะยกหรือลาก มีน้ำหนักเท่าไร ถ้าใช้รอกไฟฟ้ายกของในแนวดิ่ง ควรเผื่อน้ำหนักยกของเครื่องรอกไฟฟ้าให้เกินอย่างน้อยสัก15-20%  แต่ถ้าเป็นแนวราบ เช่น ออฟโรด ต้องเผื่อแรงเสียดทานของพื้นด้วย ในกรณีของรถออฟโรด อาจต้องเผื่อเป็นเกือบสองเท่าของน้ำหนักรถเลย  ระวังของที่ไม่มียี่ห้อ รอกไฟฟ้าที่ไม่มียี่ห้อนี้ น้ำหนักยกจะไม่ได้ตามสเปคที่ระบุ และไม่รับประกันสินค้า เพราะเขาใช้เส้นทองแดงที่ทำมอเตอร์ ซึ่งมีคุณภาพต่ำมากแล้วนำมาพันเป็นมอเตอร์

2.ขนาดลวดสลิง และความยาวลวดสลิง  ขนาดลวดสลิงจะสัมพันธ์กับน้ำหนักยกของรอกไฟฟ้า ส่วนความยาวลวดสลิงจะแสดงถึงระยะความสูง ในการใช้รอกยกของกับงานลาก จะต้องพิจารณาว่า ลวดสลิงถูกเสียดสีกับพื้นหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ลวดสลิงขาดง่าย  ถ้าเสียดสีมากต้องเปลี่ยนเป็นลวดสลิงที่มีจำนวนเส้นมากขึ้น เช่นลวดสลิง 6 X 36  จะทนต่อการเสียดสีได้ดีกว่า

3.ระบบเบรคเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เมื่อใช้รอกยกของขึ้นสูงหลายครั้งและอาจมีการหยุดค้างไว้ ระบบเบรคจะต้องไม่ทำให้ของที่ยกไหลตกลงหรือมีเสียงดัง  โดยเฉพาะรอกไฟฟ้า DC จะมีปัญหาเรื่องนี้มาก นอกจากนี้รอกไฟฟ้า DC ควรจะกันน้ำได้ดีด้วย

และนี่ก็คือ แนวทางพิจารณาเลือกใช้งานรอกไฟฟ้า AC และ DC แอดมินหวังว่าบทความเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจเกี่ยวกับรอกไฟฟ้าไม่มากก็น้อย ถ้าหากใครที่สนใจเกี่ยวกับรอกไฟฟ้า ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมเข้ามาได้ที่ www.siamkito.co.th เพราะเราเป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย รอกไฟฟ้า รอกโซ่ไฟฟ้า รอกสลิงไฟฟ้า รอกมือสาว รอกมือโยก ที่มีคุณภาพ และยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อไปยังขั้นตอนการติดตั้งเลยทีเดียว หากท่านใดที่มีความสนใจเกี่ยวกับรอกไฟฟ้าหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อกันเข้ามาได้เลยที่ช่องทางด้านล่างนี้

เบอร์โทร : 063-272-8555
Email : contact@siamkito.co.th
Facebook : @SIAMKITOCorporation
Line ID : @siamkito

Siamkito-banner-ติดต่อ-รอกโซ่ไฟฟ้า

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (cookie) เพื่อเพิ่มประสบการณ์และประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้สะดวกยิ่งขึ้น ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่